เมื่อเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านของอายุและการศึกษา จากเด็กมัธยมก็ต้องเข้าสู่นิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัยกันแล้ว หลายๆ คนคงจะวางแผนชีวิตตั้งแต่ก่อนขึ้นม.4 เลือกสายการเรียนที่จะเป็นสะพานให้ตัวเองก้าวข้ามไปสู่มหาวิทยาลัยได้ แต่ถึงอย่างนั้น หลายๆ คน ที่ปูทางมาจนถึง ม.6 ก็ต้องกลับเบนเข็มทิศไปเส้นทางอื่น เพราะความชอบ และปัญหาใหญ่คือ คะแนนที่จะไม่ถึงคณะที่อย่างจะเรียน ในการเรียน นอกจากจะเรียนให้ได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดีแล้วนั้น เราจะต้องมีความสุขกับการเรียนด้วย ซึ่งจะส่งผลทำให้การเรียนของเรานั่นดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นมาดูวิธีเลือกเรียนคณะที่ตนเองสนใจและรู้สึกว่าใช่ และตอบโจทย์ของเราได้เป็นอย่างดี
- “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” คำถามสุด HOT ตั้งแต่สมัยอนุบาล ที่คุณครูมักถามเราเสมอว่า โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรคะ ? แต่คำตอบของเรามีคำตอบเดียวซะที่ไหนล่ะ ความใฝ่ฝันเปลี่ยนผันได้ตามกาลเวลา สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมต่างๆ แต่ในเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเลือก เราจะต้องคิดและทบทวนให้ดีกว่าเราต้องการมีชีวิตแบบไหนในวัยทำงาน แล้วเรียงลำดับความชอบและคณะที่ match กัน แล้วเลือกเลย
- “หาสิ่งที่ถนัด” อะไรที่เราคุ้นเคย และเราสามารถทำมันได้อย่างดี มันจะทำให้เราไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยที่ต้องพยายามมากเป็นพิเศษ เราสามารถทำมันได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเครียด หรือบางครั้งลองปรับเปลี่ยนดูบ้างทำให้เราไม่เบื่อ การเรียนก็เช่นกัน หากว่าเราถนัดภาษา แต่เราดันเลือกเรียนคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ อาจจะทำให้เราต้องเหนื่อยที่จะพยายามตามเพื่อนๆ ให้ทัน ส่งผลให้เรากดดัน และไม่มีความสุขกับการเรียน และยอมแพ้ในที่สุด ดังนั้นลองเลือกคณะที่เราถนัดจะดีกว่านะ
- “ชีวิตเป็นของเรา” หลายๆ คน มักชอบถามเพื่อนข้างกายอยู่เสมอว่า วันนี้ทานข้าวกับอะไรเราทานด้วยนะ หรือวันนี้ไปเที่ยวไหนเราไปด้วยนะ แต่กับการเรียนไม่ใช่นะจ๊ะ ต่างคนต่างพื้นฐานทางสังคม ต่างความชอบความถนัด ไม่สามารถทำตามกันได้อยู่ตลอดเวลา หากเพื่อนชอบเรียนภาษา แต่เราไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ชอบใช้ความจำ ชอบทำอะไรที่ต้องคิดและคำนวณ แต่ดันไม่รู้จะเรียนคณะไหนเลยไปกับเพื่อน ท้ายสุดเราก็คงไปต่อไม่ไหว เพราะเราไม่ได้ชอบ เพราะฉะนั้น ชีวิตเป็นของเรา เราเลือกในแบบที่เราชอบและมีความสุข แล้วค่อยมาเจอเพื่อนในวันที่เราประสบความสำเร็จกันแล้วนะ
เทคนิค 3 ข้อนี้ อาจจะยังไม่สามารถทำให้น้องๆ เลือกคณะได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่น้องๆ สามารถนำไปเป็นแนวทางในการค้นหาตนเอง และค้นหาคณะที่อยากจะเข้าเรียนได้ แต่สำหรับการเรียนการศึกษาไม่มีผิดและถูก หากว่าเราถัดและชอบแต่พอได้เข้าไปเรียนแบบเข้มข้น เราอาจจะไม่ชอบ ก็สามารถตัดสินใจใหม่ได้ ไม่ต้องกลัวว่าเสียเวลา คนเรายังต้องค้นหาตัวเองและพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ในตอนที่มีชีวิตอยู่